สิ่งแรกเมื่อเราต้องการสร้างบ้านนั่นคือ เราต้องมีแบบบ้าน โดยที่แบบบ้านนั้นต้องถูกออกแบบบ้านโดยสถาปนิก หรือแบบบ้านสำเร็จรูปที่มีขายทั่วไป วิศวกรโครงสร้าง หรือวิศวกรงานระบบผู้เขียนแบบ และค่าพิมพ์แบบนั้น หากเป็นแบบสำเร็จรูปจะมาราคาถูกกว่า เพราะสามารถขายได้หลายครั้งในการออกแบบครั้งเดียว แต่อาจจะไม่ได้รูปแบบการใช้งานตามที่ต้องการ

แบบบ้านจะประกอบด้วย แบบแปลนของผังบริเวณบ้าน แบบแปลนของชั้นต่างๆ ทุกชั้นไปจนถึงหลังคา รูปด้านทุกด้าน รูปตัดของตัวบ้านอย่างต่ำ 2 แนว หากเป็นบ้านที่มีพื้นที่ค่อนข้างมาก ต้องมีรูปตัดมากกว่า 2 แนว และนอกจากนี้ยังมีรายละเอียดของส่วนต่างๆ ที่อยู่ในตัวบ้าน เช่น ราวบันได ลูกชั้นบันได คิ้วรอบผนังบ้าน ชายหลังคา เป็นต้น แบบโครงสร้างที่แสดงรายละเอียดของการเสริมเหล็กหน้าตัดคาน เสา พื้น หรือแบบโครงสร้างของหลังคา ต้องแสดงรายละเอียดของชิ้นส่วนต่างๆ ว่ามีขนาดเท่าไหร่ และประกอบกันด้วยลักษณะแบบไหน ระบบต่างๆ ระบบประปา ระบบการเดินท่อน้ำทิ้ง การระบายน้ำฝน  แบบระบบไฟฟ้า เป็นต้น แบบแปลนเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของการยื่นขออนุญาตก่อสร้าง


วิธีการขออนุญาตปลูกบ้าน

-    กรอกคำขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร (ข.1)
-    แบบแปลนแผนผังจำนวน 5 ชุด
-    หนังสือรับรองการเป็นผู้ออกแบบ สถาปนิก วิศวกร พร้อมสำเนาใบอนุญาต
-    สำเนาโฉนดที่ดิน ที่จะก่อสร้าง
-    สำเนาบัตรประชาชน หรือทะเบียนบ้านเจ้าของอาคาร ในกรณีที่เป็นนิติบุคคลใช้หนังสือ รับรองการจดทะเบียน

เมื่อเราได้ข้างต้นแล้ว ให้นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นต่อเทศบาลซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ ภายใน 45 วัน จะต้องได้รับแจ้งว่าได้อนุยาหรือไม่ หากได้รับว่าไม่อนุญาต จะต้องทำการแก้ไขตาม โดยจะเสียค่าธรรมเนียมตารางเมตรละไม่เกิน 4 บาท


ขั้นตอนการปลูกสร้างที่ต้องทราบ

-    ตอกเข็มหล่อฐานราก คานคอดิน และการตั้งเสาชั้นล่าง
-    หล่อคานชั้นบน และเสาสำหรับรับหลังคาชั้น 2
-    มุงหลังคา  ก่ออิฐผนัง ฉาบปูน ติดตั้ง วงกบ ใส่ฝ้าเพดาน
-    ปูวัสดุพื้น ติดตั้งประตู หน้าต่าง ติดตั้งระบบท่อน้ำ
-    บุผนังกระเบื้อง ติดตั้งสุขภัณฑ์ ทาสี เดินสายไฟ เก็บรายละเอียดส่วนที่เหลือ


จะเห็นได้ชัดว่าการสร้างบ้านนั้นมีรายละเอียด และขั้นตอน ค่อนข้างละเอียด หากเราต้องการสร้างบ้าน ควรศึกษาข้อมูลดีๆ เพื่อให้ไม่เสียค่าใช้จ่าย และเวลา หากต้องการสร้างบ้านให้ตรงใจแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ดีกว่า


รับสร้างบ้าน: ต้องการสร้างบ้าน และออกแบบบ้าน จะเริ่มอย่างไร ? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://luxuryhomesdesigns.com/

90% ของผู้บริหารเลือกชุดยูนิฟอร์มเพราะอยากสร้าง Branding ให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ สร้างการจดจำ สร้างความแตกต่าง ล้วนแล้วแต่แอบหวังผลอะไรบ้างจากชุดยูนิฟอร์มถูกต้องมั้ยครับ?

วันนี้เราจึงขอนำเสนอแนวทางการเลือกชุดยูนิฟอร์มพนักงานที่จะช่วยให้ “พนักงานดูมีภูมฐานยิ่งขึ้น”


STEP 1.แบรนด์คุณต้องการจะสื่ออะไร?

ก่อนที่คุณจะวางแผนสั่งตัดยูนิฟอร์มคุณควรทราบก่อนว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่คุณอยากจะสื่อคืออะไร เช่นโครงการอสังหาต้องการภาพลักษณ์ที่มีความน่าเชื่อถือ สถานบันเทิงต้องการภาพลักษณ์ที่ดู friendly เข้าถึงง่ายหรือคลีนิกที่อยากสร้างการจดจำเหนือกว่าคู่แข่งมากมาย ถ้าคุณทราบว่าภาพลักษณ์ที่แท้จริงที่คุณอยากสื่อคืออะไรขั้นต่อไปนั้นไม่ยากเลย


STEP 2.ลองหา Reference ที่อยากได้

ในขั้นตอนนี้เราอยากให้คุณสร้างทำ Reference Board ขึ้นมาลองหยิบแบบหรือดีไซน์จากแบรนด์ต่างๆ ที่คุณสนใจ ไม่ว่าคุณจะอยู่ธุรกิจไหนก็ไม่สำคัญ คุณจะหยิบเอาแบบจากกลุ่มที่ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องก็ย่อมได้ ในขั้นตอนที่เราอยากให้คุณลองใส่ไอเดีย เพื่อให้ภาพลักษณ์ที่ต้องการจะสื่อนั้นชัดเจนมากขึ้น


STEP 3.เริ่มออกแบบ!

ในขั้นนี้อย่างน้อยเราอยากให้คุณเลือกได้ว่าชุดที่อยากได้จะเป็นชุดแบบไหน เช่น ชุดสูท ยูนิฟอร์ม เสื้อเชิ้ต ชุดเดรส หรือชุดตามสาขาอาชีพต่างๆ ซึ่งคุณสามารถใช้แบบที่หาได้จาก Reference Board ขึ้นตัวอย่างได้เลยหรือจะให้ Designer ของเรา Veronika Official เป็นคนดึงแบบจาก Ref. เพื่อขึ้นแบบใหม่ๆ ปรับแต่งดีเทลให้น่าสนใจมากขึ้น หรือแม้กระทั้งสร้างการจดจำให้เหนือคู่แข่งด้วยการใส่ลูกเล่นดีไซน์ใหม่ๆที่แตกต่าง ก็ย่อมน่าสนใจเพราะขั้นนี้ก็เปรียบเสมือนการที่เราลง Draft ก่อนวาดภาพจริง


STEP 4.สั่งตัวอย่าง!?

เพื่อให้ตรงตามความต้องการที่สุดก่อนขึ้นชุดจริงทั้งหมดคุณควรเห็นชุดตัวอย่างก่อน มันคือ Process ที่ค่อนข้างจำเป็นยิ่งถ้าคุณต้องตัดเย็บชุดพนักงานจำนวนมากๆ เพื่อให้ชุดที่ตอนแรกคุณเห็นในกระดาษพอเป็นชุดจริงแล้วมันเป็นอย่างไร ตรงคามความต้องการหรือไม่ ถ้ายังไม่ได้ตามความต้องการที่ควรจะปรับแก้ตั้งแต่ตอนนี้ พอขึ้นชุดจริงจะได้ไม่ผิดพลาดและไม่เกิดปัญหา


STEP 5.ตัดชุดจริงและฟิตติ้งชุดกับพนักงาน

แน่นอนว่าเมื่อทุกอย่างผ่านแล้วก็ถึงขั้นตอนสำคัญคือการตัดเย็บชุดจริงทั้งหมดด้วยไซส์มาตรฐาน แบบตามที่ตกลง ดีเทลรายละเอียดทั้งหมดต้องผ่าน QC แล้วเมื่อได้ชุดจริงทั้งหมดแล้วคุณก็ควรให้พนักงานได้ลองชุดก่อนที่จะส่งมอบชุดทั้งหมดเพื่อเป็นการตรวจเชคอีกครั้งว่าไซส์ที่สั่งตัดมาใส่ได้พอดีตัวกับพนักงานของคุณที่สุด เพื่อให้พนักงานคุณมั่นใจทุกครั้งเมื่อใส่ชุดยูนิฟอร์มขององค์กรคุณ



ขั้นตอนการสร้าง Branding จากชุดยูนิฟอร์ม ชุดพนักงาน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://uniformdeluxe.com/

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

📌 ขายบ้านสวย INFINITY โครงการบัวศลาวิวล์
ตั้งอยู่โซนหนองบัวศาลา เขตอุตสาหกรรม สุรนารี-หนองบัวศาลา อำเภอเมืองโคราช
กำลังขึ้นโครงการ 6 หลัง แล้วเสร็จ เดือนพฤศจิกายน 2566
(Presale ราคาเริ่มต้น เพียง 2.xx ล้านบาท!!!! )

Presale ราคาพิเศษ+ของแถม
ภายในเดือนนี้เท่านั้น 2566
🆓 ระบบปลวก
🆓 ฟุตบาท รอบตัวบ้าน
🆓 แสตมป์คอนกรีตพิมพ์ลาย ลานจอดรถ
🆓 ปั๊มน้ำ
🆓 แทงค์น้ำ
🆓 สนามหญ้า
🆓 มิตเตอร์ไฟฟ้า
🆓 มิตเตอร์น้ำ
🆓 เคาน์เตอร์ครัว
🆓 ผ้าม่านกัน UV 100% ทั้งหลัง
🆓 แอร์ 12,000 BTU ไดกิ้น (Daikin)
🆓 ค่าจดจำนอง
🆓 ค่าใช้จ่ายวันโอน
🆓 เฟอร์นิเจอร์

บ้านสวย INFINITY โครงการบัวศลาวิลล์
จะสร้างแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้
เราจึงจัดราคา Presale ก่อนจะสร้างเสร็จ
มีทั้งสิ้น 6 หลังโทรสอบถาม063-6611189)

✅ แบบบ้านสวยตลอดกาล คือ ทรง Diasy (เดซี่) เป็นบ้านทรง คอนเทมโพรารี่ สวยนิยมตลอดกาล (Contemporary)
✅ รูปทรงภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์เด่นของทรงนี้ มีหลังคาปั้นหยาเป็นที่นิยมตลอดกาล
✅ ส่วนที่จอดรถออกแบบมาพร้อมกับโครงสร้างหลักตัวบ้านจึงไม่ต้องกังวลว่าบ้านจริงจะรับน้ำหนักไม่ได้เกิดการ ทรุด ร้าว รั่ว ทำให้มีผลกระทบต่อโครงสร้างหลักของบ้าน
✅ โดยส่วนจอดรถออกแบบโครงสร้างมาพร้อมกับหลังคาดาดฟ้าที่เป็นพื้นคอนกรีตทำให้แข็งแรงมั่นคงมาก ซึ่งจะต่างจากการทำหลังคาที่ต่อเติม
✅ บานประตูหน้าต่างบานใหญ่เพื่อแสงสว่างและการไหลของลมภายในบ้าน ทำจากอลูมิเนียมเกรดดียี่ห้อชั้นนำในตลาด ดำเนินการด้วยช่างที่มีความชำนาญและประสบการณ์ สีที่เลือกใช้เป็นสีดำให้ความรู้สึกเข้ม มั่นคง
✅ ตัวบ้านเป็นสีขาวและโทนเทาให้ความรู้สึกสะอาดตา สุขุมนุ่มลึก ไม่ฉูดฉาดตกยุคล้าสมัยเร็ว น่าอยู่ อยู่แล้วสบายใจ สบายตา สบายอารมณ์

การก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน
✅ เพราะเราใส่ใจ ไล่ตั้งแต่เหล็กโครงสร้างถูกต้อง ตรงตามแบบที่วิศวกรออกแบบทุกเส้น และยังมีวิศวกรควบคุมงานอยู่หน้างานเป็นประจำ ซึ่งป้องกันการก่อสร้างที่ผิดจากแบบก่อสร้างมาตรฐาน
✅ รับประกันโครงสร้าง บ้านทุกหลัง 5 ปี
✅ ออกแบบตกแต่ง สวยงาม ด้วยทีมสถาปนิกมากประสบการณ์

ห้องนอนใหญ่ Master Bedroom มีพื้นที่สำหรับพื้นที่แต่งตัว Walk in Closet
ห้องแต่งตัวส่วนตัวสำหรับคุณผู้หญิง ได้ประโยชน์ความเป็นส่วนตัวในการอาบน้ำ แต่งหน้า แต่งตัว ไม่รบกวนการนอนของคนที่นอนอยู่ข้างๆ ฝุ่นแป้งข้าวของเครื่องใช้ ไม่รกเกะกะในพื้นที่ของห้องนอนหลัก

Location ทำเลดีมาก
📌 ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมาคือเขตอุตสาหกรรมสุรนารีและโรงงานแป้งมันอุตสาหกรรมสงวนวงษ์
📌 ติดถนนเส้นราชสีมา-โชคชัย เพียง 300 เมตร มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมากสังเกตจากการมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆหลายแห่ง อาทิเช่น โฮมโปร โลตัส ดูโฮม แม็คโคร วิชโก้ SB เฟอร์นิเจอร์ เมเจอร์เฟอร์นิเจอร์ และห้างไทวัสดุที่กำลังก่อสร้างรวมถึงร้านสะดวกซื้อ 7-11 หน้าปากซอยเข้าบ้านอีกจึงถือว่าเป็นพื้นที่ที่เจริญเติบโตเป็นอย่างมาก
📌 เลยจากทางเข้าโครงการบนถนนเส้นราชสีมา – โชคชัย ไปประมาณ 600 เมตร ก็เป็นแยกถนนบายพาสตัดใหม่เส้นหมายเลข 290
📌 เศรษฐกิจที่ดีจะมีคนเคลื่อนย้ายมาอาศัยอยู่โซนนี้เพิ่มมากขึ้นและกลุ่มคนวัยทำงานอายุ 25-45 ปี ก็เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราอย่างชัดเจน
📌 ด้านการสัญจรถือว่าการเติบโตของระบบขนส่ง (Logistic) ของเมืองนครราชสีมากำลังขยายมาทางฝั่งนี้ เพราะการก่อสร้างถนนเลี่ยงเมือง (By pass) ตัดจากถนนเส้น 226 ราชสีมา – อ. จักราช ออกสู่ถนน 304 ราชสีมา – ปักธงชัย และภาคตะวันออกของประเทศ ไปบรรจบที่ถนนมิตรภาพ หมายเลข 2  อ. สูงเนิน มุ่งหน้าสู่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจุดตัดกับถนนหมายเลข 224 ราชสีมา – โชคชัย

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ OA  : https://lin.ee/641bGE9v
Page FB : https://www.facebook.com/Baansuayinfinity
เว็บไซด์ : https://homes-realestate.com/homes2/
เบอร์โทร : 063-661-1189

Porsche Taycan RWD รถสปอร์ตพลังไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง พละกำลังสูงสุด 326 แรงม้า (PS) (240 กิโลวัตต์) แรงบิด 345 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ใน 5.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. ระบบชาร์จพลังงานย้อนกลับ high-power charging network จะทำหน้าที่สะสมพลังงานให้แก่แบตเตอรี่ด้วยไฟฟ้า กระแสตรง direct current (DC) จนสามารถเดินทางได้เป็นระยะสูงสุดกว่า 100 กิโลเมตร ระยะเวลาเพียง 22.5 นาที ในการชาร์จพลังงานตั้งแต่ความจุแบตเตอรี่ 5 - 80 เปอร์เซ็นต์ SoC ) อัตราการใช้กำลังไฟฟ้าเฉลี่ย 26.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0 กรัม/กิโลเมตร วิ่งได้ระยะทาง 354 - 432 กม. อัตราสิ้นเปลือง 28.0 kWh/100 km

 
รายละเอียดเบื้องต้น
 
แบรนด์                    Porsche
รุ่น                         ปอร์เช่ Porsche-Taycan RWD-ปี 2021
ประเภทรถ                รถเก๋ง 4 ประตู, รถเก๋งซูเปอร์คาร์, Electric - EV
ปีที่เปิดตัว                2021
ราคา                      6,390,000 บาท


ดีไซน์
  ภายนอก

    ล้อแม็ก (20 นิ้ว)
    กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
    กระจกกรองแสง (กระจกตัดแสง privacy glass)
    ไฟตัดหมอก (หน้า-หลัง)
    ระบบควบคุมระยะการจอด (หน้า-หลัง)
    ระบบไล่ฝ้ากระจกมองข้าง
    ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (Three-Chamber Air Suspension)
    ไฟหน้าส่องสว่างอัตโนมัติ (เปิด-ปิด อัตโนมัติ)
    ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
    ไฟท้าย LED
    ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
    ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์
    ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์
    ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต (PASM (Porsche Active Suspension Management), Porsche Dynam-ic Chassis Control Sport (PDCC Sport))
    ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (ทำงานอัตโนมัติ)
    ไฟหน้า LED (LED matrix ซึ่งรวมเอาระบบ PDLS Plus ไว้ด้วยกัน)
    หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ

  ภายใน

    เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้
    ระบบจดจำปรับที่นั่งคนขับ
    ระบบนำทาง (Navigator)
    ตกแต่งภายใน (โทนสีดำ)
    ปลั๊กไฟ 12 โวลท์ (หน้า-หลัง)
    พวงมาลัยหุ้มหนัง
    พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้ (ไฟฟ้า 4 ทิศทาง)
    กระจกมองหลังตัดแสง (อัตโนมัติ)
    ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (Normal,sport)

สเปค
 
มอเตอร์ไฟฟ้า                       มอเตอร์ไฟฟ้าล้อหลัง 326 แรงม้า Overboost 408 แรงม้า แรงบิด 345 นิวตันเมตร Gross battery capacity 79.2 kWh เวลาชาร์จเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ใน 8 ชม. *เลือกเพิ่ม Performance Battery Plus ได้
กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)         326 แรงม้า
ระบบเกียร์                           2 จังหวะ
รูปแบบเกียร์
ระบบเบรค ABS                    มี
ชนิดแบตเตอรี่                      ไฟฟ้า
ความจุแบตเตอรี่       
ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง     360 กิโลเมตร
น้ำหนักตัวรถ
ประเภทยางรถยนต์
ขนาดล้อ (นิ้ว)
ระบบขับเคลื่อน 
ขับเคลื่อนล้อหลัง
ระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 

    ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ
    ตัวถังนิรภัย
    ดิสก์เบรก 4 ล้อ
    เซ็นทรัลล็อค
    ไฟเบรกดวงที่ 3
    ระบบแจ้งอุปกรณ์ทำงานขัดข้อง
    รีโมทคอนโทรล
    ระบบป้องกันการโจรกรรม
    ระบบกระจายแรงเบรก EBD
    หลอดไฟพิเศษระบบ Daytime Running Lights(DRL)
    อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ
    เข็มขัดนิรภัย
    พวงมาลัยยุบตัวได้
    กระจกนิรภัย
    คานเหล็กเสริมนิรภัย
    อื่นๆ
    ระบบ intelligence around view monitor กล้องมองภาพรอบทิศทาง
    ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล
    ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน
    กุญแจแบบ Keyless-Go
    ระบบสั่งการด้วยเสียง
    ระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ Dynamic Damper Control
    ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
    เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking - IEB)
    เทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ
    เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HSA

รถยนต์ไฟฟ้า ปอร์เช่ Porsche-Taycan RWD-ปี 2021 อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/car/?fuel_type=4078&quicksearch_order=306,DESC-326,ASC

“ใส่รากฟันเทียมเจ็บไหม” คำถามยอดฮิตที่ใครหลายๆ คนอยากรู้ เพราะผู้ที่ต้องทำรากฟันเทียม หลังจากหาอ่านข้อมูลในแหล่งต่างๆ มา พอเห็นคำว่าผ่าตัดเปิดเหงือก และใส่เหล็กเข้าไปในเหงือก ก็จะกลัวจนไม่กล้าทำ จากที่ตัดสินใจจะทำรากฟันเทียม ก็ลดสเปคลงเหลือเพียงฟันปลอม


ใส่รากฟันเทียมเจ็บไหม

ใส่รากฟันเทียมเจ็บไหม? แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเจ็บ แต่จะเจ็บแค่ช่วงที่ฉีดยาชา ส่วนการใส่รากฟันเทียมนั้นไม่เจ็บเลย เพราะทันตแพทย์จะลงมือผ่าตัดใส่รากฟันเทียมก็ต่อเมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้วเท่านั้น

คนไข้จะมาเจ็บอีกครั้งเมื่อยาชาหมดฤทธิ์ ประมาณ 2 – 4 ชั่วโมงภายหลังการใส่รากฟันเทียม แต่จะไม่ได้ปวดมากอะไร ส่วนมากจะหายภายใน 1 – 2 วัน

บางรายอาจจะปวดนาน แต่ก็จะไม่นานเกิน 7 – 10 วัน ในช่วงนี้สามารถทานยาแก้ปวด หรือใช้ผ้าห่อน้ำแข็งและแผ่นประคบเย็น ประคบภายนอกก็สามารถช่วยลดอาการปวดได้

ในกรณีที่พื้นที่เหงือก หรือกระดูกรองรับฟันไม่เพียงพอ อาจจะจากอุบัติเหตุหรืออายุมาก จะต้องปลูกกระดูกหรือเสริมเนื้อเยื่อเหงือกก่อนการใส่รากฟันเทียม

ในขั้นตอนเหล่านี้ทันตแพทย์จะใช้ยาชาเช่นกัน จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเจ็บ ทั้งนี้อาจจะใช้เวลารักษาที่นานขึ้น ต้องเข้ามาพบทันตแพทย์หลายรอบกว่าเดิม แต่ก็จะทำให้รากฟันเทียมที่ปลูกไปนั้นแข็งแรงขึ้นมาก ฟันไม่คลอน รากฟันไม่หลุด และไม่ต้องแก้ไขในภายหลัง


เรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำรากฟันเทียม

คนไข้มักจะถามว่าทำรากเทียมเจ็บไหม เพราะเข้าใจว่าใส่รากฟันเทียมต้องผ่าตัดเปิดเหงือก แล้วฝังเหล็กลงไป เป็นเรื่องที่ฟังดูน่ากลัวมาก ต้องเจ็บมากแน่ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การถอนฟันหลังรักษารากฟันไม่สำเร็จ เจ็บกว่าขั้นตอนการใส่รากฟันเทียมเสียอีก

เพราะรากฟันคนเราลึกลงไปถึงกระดูกด้านล่างที่เป็นกระดูกรองรับฟัน การถอนฟันแท้จึงทำให้กระดูกในส่วนนั้นบาดเจ็บด้วย ทำให้ถอนฟันแท้นั้นเจ็บ และทำให้มีอาการปวดได้มากกว่า

แต่การใส่รากฟันเทียมเป็นเพียงการฝังรากฟันลงเหงือกให้ถึงส่วนกระดูก เมื่อเวลาผ่านไปกระดูกจะเชื่อมกับรากฟันเอง โดยที่กระดูกส่วนนั้นไม่ได้บาดเจ็บ การใส่รากฟันเทียมจึงไม่ได้เจ็บอย่างที่คิด


ขั้นตอนในการทำรากฟันเทียม

1.    ทันตแพทย์จะตรวจสอบ และสอบถามประวัติการรักษาเกี่ยวกับปากและฟัน ตรวจภายในช่องปาก เอกซเรย์ฟันเพื่อวางแผนการรักษา ดูว่าทำรากฟันได้หรือไม่ ต้องปลูกกระดูก หรือเสริมเนื้อเหงือกก่อนหรือเปล่า

2.    ทันตแพทย์จะอธิบายรายละเอียดการรักษาให้คนไข้ทราบว่าต้องทำอะไรบ้าง รากฟันเทียมราคาเท่าไหร่ รากฟันเทียมยี่ห้อไหนดี เพื่อให้คนไข้ตัดสินใจ

3.    ทันตแพทย์จะทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ในขั้นตอนนี้ทันตแพทย์จะฉีดยาชาก่อน เมื่อยาออกฤทธิ์แล้ว ทันตแพทย์จึงจะเริ่มฝังรากฟันเทียม คนไข้จะไม่เจ็บขณะรักษา

4.    ทันตแพทย์จะให้กลับไปพักที่บ้าน ช่วงนี้อาจจะมีอาการปวด บวมบ้าง แต่ทันตแพทย์จะจ่ายยาแก้ปวดให้เพื่อบรรเทาอาการ และจะนัดกลับมาใหม่หลังจากนั้น 2 – 3 เดือน เพื่อให้เวลาร่างกายสร้างกระดูกขึ้นมายึดกับรากฟันเทียมเองตามธรรมชาติ

5.    เมื่อรากฟันเทียมเชื่อมติดกับกระดูก และเหงือกส่วนที่ฝังรากฟันเทียมไปแข็งแรงดีแล้ว ทันตแพทย์จะนัดมาพิมพ์ปาก เพื่อสร้างตัวครอบฟันที่มีรูปร่างและขนาดเหมาะสมกับฟันคู่สบของคนไข้

6.    เมื่อทำครอบฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะนัดคนไข้กลับมาใส่ตัวครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันปลอมแบบถอดได้ และจะนัดกลับมาเพื่อดูผลการรักษาเรื่อยๆ จนกว่าจะแน่ใจว่ารากฟันเทียมไม่มีปัญหาอะไร

ในช่วงการทำพิมพ์ปากและการทำครอบฟัน เป็นขั้นตอนของการบูรณะเพื่อสร้างฟันใหม่ให้คนไข้ ในช่วงนี้ก็จะไม่มีขั้นตอนใดที่ทำให้เจ็บแล้ว


รากฟันเทียมวันเดียวเสร็จ: ใส่รากฟันเทียมเจ็บไหม อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://bit.ly/3pByrTB

ความสวยงามของรูปร่างหน้าตาเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นใจ ด้วยเหตุนี้เองวงการศัลยกรรมเสริมความงามจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และหนึ่งในหลายกรรมวิธีหรือนวัตกรรมเสริมความงามที่ช่วยแก้ไขริ้วรอยความเหี่ยวย่นก่อนวัย ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีคงหนีไม่พ้น “โบท็อกซ์” วันนี้ เราเลยอยากจะพาให้ทุกคนไปรู้จักกับการทำโบท็อกซ์ในมุมมองต่างๆ เพื่อจะได้เข้าใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าเหมาะกับคุณหรือไม่


โบท็อกซ์ คืออะไร?

“โบท็อกซ์” (Botox) ไว้ว่า เป็นชื่อทางการค้าของ “Botulinum toxin type A” ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย ที่มีชื่อว่า “Clostridium botulinum” มีฤทธิ์สกัดกั้นระบบการทำงานของเซลล์ประสาท ทำให้ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ จึงเกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ


โบท็อกซ์ ใช้รักษาอะไรได้บ้าง?

ในช่วงแรก Botox ถูกนำมาใช้เพื่อการรักษาทางตา เช่น ตาเหล่ (Strabismus) หรือหนังตากระตุก (Blepharospasm) แล้วพบว่า ทำให้ริ้วรอยบริเวณที่ฉีดลดลง ปัจจุบันจึงได้ใช้ Botox เพื่อประโยชน์ทางด้านการเสริมความงาม และด้านอื่นๆ ได้แก่

-    ใช้รักษาเรื่องริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหว หรือการแสดงอารมณ์ เช่น บริเวณระหว่างคิ้ว หน้าผาก หางตา รอบปาก
-    นำไปใช้ช่วยลดกราม (ลดหน้าเหลี่ยม) ช่วยให้ใบหน้าเรียวขึ้น
-    ใช้ช่วยลดขนาดของเนื้อน่อง ทำให้น่องเรียว
-    ใช้ช่วยลดอาการปวดต่างๆ เช่น ปวดไมเกรน ปวดหลัง รวมถึงช่วยลดเหงื่อที่ผิวหนัง เช่น บริเวณรักแร้ และฝ่ามือ

นอกจากการฉีด Botox เข้าไปที่กล้ามเนื้อแล้ว ยังมีเทคนิคการฉีด Botox ที่เรียกว่า Microbotox  technique เป็นการฉีด Botox เข้าที่ผิวหนัง จะช่วยให้ผิวหนังตึงกระชับ ผิวที่หย่อนคล้อยดูยกขึ้น รูขุมขนเล็กลง และลดความมันของใบหน้าด้วย ทั้งนี้ การออกฤทธิ์ของ Botox จะเริ่มออกฤทธิ์ใน 2-3 วัน ออกฤทธิ์เต็มที่เมื่อประมาณ 7-14  วัน และฤทธิ์ของ Botox จะค่อยๆ สูญสลายไปในระยะเวลา 4-6 เดือน           


โบท็อกซ์ อันตรายหรือไม่?

จากการรวบรวมผู้ป่วยที่ได้รับการฉีด โบทูลินั่ม ท็อกซิน จำนวนมาก ในต่างประเทศ พบว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต เมื่อใช้โดยผู้เชี่ยวชาญและใช้ฉีดเพื่อความสวยงาม ทั้งนี้ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีด Botox ได้แก่

-    บวม แดง ช้ำ เขียว ตรงบริเวณที่ฉีด
-    แพ้เห่อแดง ที่ผิวหนัง
-    หน้าแข็งตึง รู้สึกว่าไม่สามารถบังคับกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้ สาเหตุเกิดจากปริมาณโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปไม่เหมาะสม
-    หางคิ้วกระดก เทคนิคการฉีดที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง อาจทำให้คิ้วเลิกสูงขึ้น รวมทั้งยังอาจทำให้เกิดรอยย่นขึ้นที่ด้านข้างของคิ้วเพิ่มขึ้นได้ด้วย
-    หนังตาตก เนื่องจากกล้ามเนื้อเป็นอัมพาต ซึ่งเป็นเพียงแค่ชั่วคราว

ทั้งนี้ ผลข้างเคียงส่วนมากที่เกิดขึ้นมักเป็นแบบเฉพาะที่ เช่น หนังตาตก  หน้าไม่สมมาตร หรือจุดเลือดออกในบริเวณที่ฉีด ซึ่งเกิดได้แม้ในมือผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นแพทย์และผู้ทำการรักษาจึงควรคุยกันโดยละเอียดก่อนการฉีดทุกครั้ง


เมื่อเกิดผลข้างเคียงแล้วจะทำอย่างไร?

ผลจากการฉีด โบทูลินั่มท็อกซิน นั้นจะค่อยๆ หมดไปเองภายในเวลาเป็นหลักเดือน ดังนั้นผู้รับการรักษาอาจรอให้ผลของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน หมดไปเองก็ได้ ส่วนในกรณีที่เกิดหนังตาตกนั้น ผู้รับการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาเพื่อแก้ไขเป็นกรณีไป


เตรียมตัวอย่างไร? ก่อนไปฉีด Botox

การฉีด Botox ก็เปรียบเหมือนการเข้ารับการรักษาโรคอื่นๆ โดยทั่วไป ดังนั้น การเตรียมตัวทั้งก่อนและหลังฉีด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ ผู้ต้องการรักษา ควรรู้ โดย พญ.พรภุชงค์  เลาห์เกริกเกียรติ หัวหน้าศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลพญาไท  3 ได้แนะนำแนวทางในการปฏิบัติไว้ดังนี้


ก่อน ฉีด Botox

    หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามิน A, AHA สครับหน้า ขัดหน้า เป็นเวลา 1-2 วันก่อนการฉีด Botox
    หยุดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
    งดแอลกอฮอลล์ 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา
    ถ้ามีประวัติของโรคเริมบริเวณฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา


หลังฉีด Botox

    อย่านวด กด หรือกระทำอันใดที่จะมีผลต่อบริเวณที่รักษา เช่น สวมหมวก สวมหมวกกันน็อก หรือนวดหน้า
    อย่านอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
    งดการอยู่ในที่ร้อน เช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อน เป็นเวลา 4 ชั่วโมง
    รอยนูนจากการฉีดจะหายไปเองภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง
    งดเว้นการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการเล่นโยคะเป็นเวลา 4 ชั่วโมง หลังการรักษา
    งดการทายาหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเช่น กรดวิตามินเอ AHA วิตามินซีเป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังการรักษา
    พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
    สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้
    สามารถใช้เครื่องสำอางได้หลังการรักษาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถู
    ผู้ป่วยจะเริ่มเห็นผลการรักษาใน 2-7 วัน และเห็นผลการรักษาสูงสุดใน 2 สัปดาห์
    กลับมาพบแพทย์เมื่อมีข้อสงสัยหรือสิ่งผิดปกติใดๆ

ทั้งนี้ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อประเมินการรักษา และข้อสำคัญควรเลือกใช้บริการกับคลินิกหรือโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ และทำการรักษากับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ความงาม: เรื่อง Botox ที่ต้องบอกต่อ สิ่งสำคัญหลายข้อ ที่คุณอาจไม่รู้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/